GameStop ร้านเกมในตำนาน ที่เหล่ากองทุนจ้องจะฟันเพื่อทำกำไร
GameStop ร้านเกมในความทรงจำของคนยุค 80-90 ที่เหล่ากองทุนรวมหัวจะฟันเพื่อทำกำไร
ร้านเกมในความทรงจำของคนยุค 80-90 ที่เหล่ากองทุนรวมหัวจะฟันเพื่อทำกำไร
GameStop เป็นร้านเกมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุค 80-90 ที่มีสาขามากกว่า 5,000 สาขา ที่โด่งดังเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็น อเมริกา แคนนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ ยุโรป เพราะว่าในยุค 80-90 นั้นยังไม่มีการซื้อของออนไลน์ เหมือนปัจจุบันนี้ แล้วต่อมาในช่วงปี 2015 ราคาหุ้น GameStop หุ้นละ 45 เหรียญ แต่ผ่านไปแค่ 5 ปี ราคาก็ร่วงเหลือเพียงแค่ 4 เหรียญ เพราะคนหันมาเล่นเกมในโทรศัพท์มากขึ้น
แล้วเพราะเหตุนี้ เหล่ากองทุนต่างๆ ก็เล็งเห็นว่าธุรกิจนี้ไปไม่รอดแน่ๆ จึงได้มีการ Short selling หุ้นไว้เป็นจำนวนมหาศาล เพราะถ้าธุรกิจนี้เจ๊งเมื่อไหร่ เหล่ากองทุนต่างๆก็จะได้รับกำไรกันไป แต่ดันมาติดอยู่นิดเดียวตรงที่มา Short selling หุ้น GameStop อันเป็นที่รักในวัยเด็กของรายย่อยทั้งหลายที่ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงอายุที่พอจะมีเงิน จึงได้เกิดการรวมตัวเฉพาะกิจของเหล่านักลงทุนรายย่อยเพื่อเอาคืนบรรดากองทุนรายใหญ่ทั้งหลาย
รายย่อยต่างๆใน Reddit จึงได้เริ่มทำการเข้าซื้อหุ้น GameStop กันเป็นจำนวนมากส่งผลให้ราคาหุ้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วพอข่าวนี้เริ่มดังก็ยิ่งมีการซื้อหุ้น GameStop เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ประกอบกับรายย่อยได้ทำการซื้อ Stock Option เลยทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก และอีกปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาสูงขึ้นไปอีกก็คือ เหล่ากองทุนที่ Short selling ไว้และเมื่อถึงจุดที่ต้อง Cut Loss จะต้องหาซื้อหุ้นที่ Short selling ไว้มาขายคืนเพื่อที่จะออก แต่ติดตรงที่ว่าหุ้นถูกรายย่อยแย้งกันซื้อและไม่ยอมขายทำให้ราคาพุ่งขึ้นไปอีก แล้วเมื่อถึงตอนนั้นเหล่ากองทุนก็ต้องยอมจำนนหาเงินมาซื้อหุ้น ที่แสนจะแพงมาคืน ทำให้เหตุการณ์ GameStop ครั้งนี้ เหล่าบรรดากองทุนรายใหญ่ เจ็บตัวรวมๆกันไปประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าคิดเป็นเงินบาท ก็จะประมาณ 150,000 ล้านบาท
- Short selling คือ การยืมหุ้นคนอื่นมาก่อนแล้วเมื่อครบเวลาเราก็ซื้อหุ้นกลับไปคืน ตัวอย่างคือ เรายืมหุ้นคนอื่นมาในวันนี้ราคา 10 บาท แล้วผ่านไปหนึ่งเดือน ราคาหุ้นอยู่ที่ หุ้นละ 5 บาท เราก็แค่ซื้อหุ้นราคา 5 บาทนั้นไปคืนเมื่อครบกำหนดเวลา แค่นี้เราก็จะได้กำไรมา 5 บาท Short selling เป็นการแทงว่าหุ้นจะลง
- Stock Option คือการที่เราขอซื้อหุ้นที่มีราคาแพงกว่าราคาในปัจจุบัน ตัวอย่างก็จะประมาณว่า หุ้นปัจจุบัน ราคา 10 บาท แต่เราคาดการว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าราคาจะขึ้น เราเลยขอซื้อหุ้นนั้นที่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 10 บาท แต่เราขอซื้อไว้ที่ราคา 15 บาท และเมื่อหนึ่งเดือนต่อมาราคาหุ้นตัวนี้ขึ้นไปที่ 20 บาท เราก็จะได้ส่วนต่างตรงนี้ ยิ่งหุ้นราคาพุ่งสูงเท่าไหร่เราก็จะได้มากเท่านั้น